Cat Radio โตโต แมวแมว ขอเพลงได้ที่ 02-530-9611

Bed Tips : Earth Patravee

Bed Tips : Earth Patravee
 
เอิ๊ต ภัทรวี Bed Tips (เรียบเรียงจากการออกอากาศทาง Cat Radio เมื่อวันที่ 17 กันยายน  งอน - Earth Patravee


งอน - Earth Patravee

 
เอิ๊ตทักทาย
          สวัสดีค่ะ เอิ๊ต ภัทรวี จากมิวสิกมูฟ เรคคอร์ดสค่ะ อัปเดตผลงานปี 2021 นี้นะคะ ก็เป็นปีที่ไม่ค่อยได้ออกไปเล่นดนตรีที่ไหนเนาะ ส่วนใหญ่จะเป็นการทำเพลงอยู่ที่บ้านนะคะ ตั้งแต่กุมภาพันธ์ก็จะมีเพลงพิเศษเพลงหนึ่งที่ทำกับ JanChan นะคะ เพลง ‘เพราะเธอ (My Everything)’ ค่ะ ก็พิเศษมากๆ นะคะเพลงนี้ เพราะว่าได้ร่วมกับการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นนะคะ หรือว่า Japan Railway หรือว่า JR ของจังหวัดนางาโนะค่ะ ก็เป็นเพลงที่ทำแล้วคิดถึงญี่ปุ่นมากๆ นะคะ ดูเอ็มวีแล้วก็คิดถึงญี่ปุ่นมากๆ เหมือนกันค่ะ ก็เข้าไปดูกันได้เนาะ 

เพราะเธอ (My Everything) - EARTH X JAN CHAN

          อีกเพลงหนึ่งนะคะ ช่วงเดือนเมษายนก็จะมีเพลง ‘ห้ามใจไม่อยู่’ ค่ะ เพลงนี้ก็เป็นเพลงสดใสๆ ที่ภายหลังนี่ ละครเรื่อง Dare To Love ก็ได้เลือกไปใช้ประกอบละครด้วยค่ะ ภูมิใจมากๆ เลยค่ะ เพราะว่าได้ยินเสียงตัวเองในทีวี ก็รู้สึกว่าตื่นเต้นมากๆ เลยค่ะ
          มาที่อีกเพลงหนึ่งก็จะเป็นเพลงที่ออกมาไล่เลี่ยกันนะคะ ในเดือนพฤษภาคม ก็จะเป็นเพลง ‘คิดไม่คิด’ นะคะ ประกอบซีรีส์ของ VIU ค่ะ (Close Friend โคตรแฟน) เพลงนี้ก็น่ารักเหมือนกันค่ะ แล้วก็ซิงเกิลใหม่ล่าสุดของเอิ๊ตนะคะ เพลง ‘งอน’ ก็น่าจะสนุกสนานที่สุดนะคะในปีนี้ 

คิดไม่คิด : EARTH PATRAVEE Ost. Close Friend โคตรแฟน

วิธีการแต่งเพลง
          วิธีคิดหรือว่ากระบวนการแต่งเพลงนะคะ เราก็จะเป็นคนที่เก็บคอนเทนต์ต่างๆ อยู่แทบจะตลอดเวลาเลยค่ะ เวลาที่เราดูหนังหรือว่าดูซีรีส์แล้วเจอคำที่เราชอบหรือว่าใช้ชีวิตปกติแล้ว รู้สึกว่าเรื่องนี้มันดีนะ เราก็จะเก็บใส่มือถือไว้ตลอด จดโน้ตไว้ตลอด ทีนี้เวลาที่เราคิดว่าเราจะแต่งเพลงขึ้นมา เราก็จะเอาอันนี้ขึ้นมาอ่านนะ แล้วก็จะมาดูว่า มีเรื่องอะไรที่ยังน่าสนใจอยู่สำหรับเรา หรือว่าเราไปค้นหาเพิ่ม ความรู้สึกแบบนี้สามารถขยายไปได้แบบไหนบ้าง ซึ่งจริงๆ แล้วขั้นตอนนี้ อาจจะมาก่อนหรือหลังที่เราขึ้นดนตรีก็ได้ค่ะ เหมือนบางทีเราขึ้นดนตรีมาแล้วมันน่าสนใจแล้ว เราค่อยมาช้อปปิ้งดูว่าจะเป็นคอนเทนต์อะไรดีน้า หรือว่าบางทีเราก็มองคอนเทนต์ก่อนแล้วเราค่อยไปขึ้นดนตรี แบบนี้ก็อาจจะได้ผลลัพธ์อีกแบบหนึ่งค่ะ เพราะว่าก็จะเป็นการขึ้นดนตรีจากคอนเทนต์หรือว่าจากฟีลที่เรารู้สึกว่ามันจะไปประมาณนี้ แต่ว่าสำหรับเราไม่ได้มีกฎตายตัวอะไรนะคะ ก็แล้วแต่แต่ละคน แล้วแต่ว่าแต่ละเพลงจะมาแบบไหนด้วยแหละ  
          อย่างเช่นเพลง ‘ขอโทษดาว’ เริ่มจากการที่เราอยากแต่งเพลงสักเพลงหนึ่ง เราเลยพยายามนั่งหา inspire เยอะมาก พยายามอ่านหนังสือ พยายามดูหนังสือภาพ หนังสือกวี ต่างๆ แล้วก็ไปเจอภาพของนักวาดภาพและนักเขียนชาวไต้หวันนะคะ ชื่อว่า จิมมี่ เหลียว (Jimmy Liao) เขาก็วาดรูปท้องฟ้าขึ้นมาแล้วก็มีดวงดาว แล้วก็เขียนว่า “ดวงดาวจะรู้ไหมนะ ว่ามีคนขอพรกับเขามากมายแค่ไหน” ประโยคคล้ายๆ แบบนี้นะคะ พอเราอ่านแล้วเราก็รู้สึกว่าจริงด้วยเนาะ ดวงดาวจะรู้ไหมนะ เราก็เลยอยากจะแต่งเพลงที่บิวด์กับประโยคนี้ บอกว่าอยากจะขอโทษดวงดาวนะที่เราคงไม่ได้ขอพรกับเธอเหมือนคนอื่นๆ เพราะเรารู้สึกว่าเราไม่มีความหวังน่ะ เรารู้สึกว่าขอพรไปมันจะได้อะไรถ้าเรารู็สึกคำตอบอยู่แล้ว ก็เลยได้เป็นคอนเทนต์ของเพลงนี้นะคะ สุดท้ายก็เลยได้ชื่อเพลงว่าขอโทษดาว
          สิ่งที่สำคัญสำหรับเราก็คือ เรารู้สึกกับสิ่งไหนมากกว่าแหละ เพราะว่าหลายๆ อย่างก็เกิดขึ้นมากมายเนาะแต่ก็มีสิ่งที่เรารู้สึกและสิ่งที่เราไม่รู้สึกซึ่งก็ต่างกันไปในแต่ละคนเนาะ แล้วเราก็รู้สึกว่ามันเจ๋งดี เพราะว่าแต่ละคนก็รู้สึกต่างๆ กันไป เพราะฉะนั้นจะไม่มีเพลงไหนเลยที่แต่งออกมาได้ซ้ำกัน ก็เลยรู้สึกว่า 
อันนี้ก็น่าจะเป็นสิ่งที่เราไม่ต้องกลัว เราไม่ต้องกลัวหรอกว่าเราจะซ้ำใคร 
 ขอโทษดาว - Earth Patravee 
 
แรงบันดาลใจในการแต่งเพลงของเอิ๊ต
           เพลงหรือศิลปินที่ให้แรงบันดาลใจหรือจุดประกายในการเริ่มแต่งเพลง ช่วงที่เราเริ่มโต แล้วก็น่าจะเป็นช่วงที่เราฟังเพลงบ่อยสุด ก็คือช่วงที่เพิ่งหัดขับรถเองนะคะ หรือว่าช่วงที่ต้องนั่งรถบ่อยๆ ช่วงนั้นก็จะมีซีดีติดรถเลยก็คือ Jason Mraz กับ Ed Sheeran ซึ่งก็เป็น Singer-Songwriter ทั้งสองคนนะคะ ก็เป็นคนที่เรารู้สึกว่าอะเมซิ่งมาก ทั้งแต่งเพลง ทั้งเล่น ทั้งร้อง แล้วทุกอย่างเราเชื่อเขามากๆ เลย ว่าเขารู้สึกอย่างนี้ จะมีเพลงหนึ่งนะคะของเอ็ด ชีแรน ที่เรารู้สึกว่า เฮ้ยฟังแล้วรู้สึกเปลี่ยนไปเลยกับการแต่งเพลงกับการฟังเพลงนะคะ ก็เป็นเพลงชื่อว่า U.N.I ซึ่งอาจจะแปลว่ายูนิ university ก็ได้นะคะ เรารู้สึกว่าเป็นเพลงที่มี ดีเทลเยอะมาก เขาอธิบายละเอียดมากเลยว่า เขาเจอยางมัดผมของแฟนเก่าแล้วก็ทำให้เขายังคิดถึง เหมือนยังมูฟออนไม่ได้ ซึ่งเพลงมีดีเทลเยอะมาก แต่ว่าตอนนั้นเราฟังแล้วอินจังเลย เราก็ไม่ได้ไปอยู่ในชีวิตเขาสักหน่อย ไม่ได้อยู่ในมหาวิทยาลัยเดียวกับเขาสักหน่อย แต่ทำไมรู้สึกอินกับเขาจังเลย เอิ๊ตก็เลยรู้สึกว่าเจ๋งดีนะ การแต่งเพลงที่เราอาจจะไม่ได้ต้องมีชีวิตเดียวกัน แต่เรารู้สึกเหมือนกันได้ หลังจากนั้นก็เลยรู้สึกว่า ถ้าเราเป็นศิลปิน แล้วเราได้แต่งเพลงของตัวเอง แล้วมีตัวเราอยู่ในเพลง คงจะเจ๋งมากๆ เลย เราก็เลยตั้งเป้าไว้ว่าเราอยากจะเป็นอย่างนี้เหมือนกัน เราอยากจะเป็น Singer-Songwriter เหมือนกัน 

U.N.I. · Ed Sheeran 
  
ความรู้สึกแรกเมื่อร้องเพลงที่ตัวเองแต่ง
          เราโตมากับการที่ได้แต่งเพลงอยู่บ่อยๆ นะคะเพราะว่าที่โรงเรียนก็จะมีการแสดงที่ต้องแต่งเพลง แต่ว่ามันต่างกันนะ กับการที่เราเป็นศิลปินแล้วเราปล่อยเพลงออกไปแล้วเราต้องเอาเพลงนี้มาแสดงต่อหน้าคนเยอะแยะมากเลย ครั้งแรกที่เราร้องเพลงที่ตัวเองแต่งจริงๆ ก็น่าจะเป็น ‘Timehop’ จริงๆ กลัวมากเลยนะ มีความรู้สึกหลายอย่างมากเลยว่า เรากำลังจะจริงใจมากๆ กับคนดูที่อยู่ตรงหน้า แต่ในขณะเดียวกันเราก็กลัวว่าเขาจะไม่อยากฟัง แต่ถึงอย่างนั้นเราก็รู้สึกว่าเราอยากร้องมาก เราอยากเปล่งออกมาให้ทุกคนได้ฟัง อยากจะเรียบเรียงความรู้สึกทุกอย่างที่รู้สึกอยู่ ให้ทุกคนได้รู้สึกเหมือนกัน ซึ่งเราก็เลยรู้สึกว่าเป็น magic moment
          ตอนแต่งก็อยู่ในห้องนอนน่ะเนาะ แต่ตอนร้อง อยู่ต่อหน้าคนเยอะแยะเลย ก็เลยรู้สึกว่าเป็นอะไรที่บรรยายไม่ถูกเหมือนกัน แล้วก็เป็นโมเมนต์ที่ดีนะ 

Timehop - Earth Patravee 
วิธีพัฒนาการเขียนเพลง
          เอิ๊ตค่อนข้างมีความโชคดีนะคะที่ได้มีการเขียนเนื้อร้องร่วมกันกับพี่ๆ ในค่าย ซึ่งระหว่างการร่วมกันเขียนเนื้อร้อง บางครั้งจะได้เรียนรู้ซึ่งกันและกันเยอะมาก บางคนก็คิดคำออกมาต่างกัน คิดตัวอย่างออกมาต่างกัน หรือว่าให้ความรู้สึกที่ต่างกันออกไปโดยสิ้นเชิงได้เลย พอได้คอลแลบแบบนั้นแล้ว บางทีที่เรากลับมาทำคนเดียวทำให้เรารู้ว่า “จริงๆ แล้วไม่ได้มีแค่ 1 วิธีเสมอไป มีหลายวิธีมากเลย ที่เราพยายามจะเขียนประโยคใดประโยคหนึ่งออกมา อยู่ที่เราอยากเล่ามันแบบไหน เราคิดมันออกหรือเปล่า ซึ่งการคิดไม่ออกก็อาจจะเป็นอีกปัญหาหนึ่ง ซึ่งเราอาจจะต้องพยายามเก็บเกี่ยวข้อมูลเยอะ เราต้องเอาตัวเองออกไปรู้สึกเยอะๆ ไม่ว่าจะเป็น รู้สึกจริงหรือรู้สึกผ่านสื่อต่างๆ หรือว่าผ่านทวิตเตอร์ หรือว่าผ่านข้อความที่เขาลงซึ้งๆ ในไอจีก็ตาม หรือบางทีเราดูหนัง เราอ่านหนังสือ เราเก็บคำเหล่านั้นกลับมาเข้าตัวได้ เราเก็บความรู้สึกของพระเอกในซีรีส์เรื่องที่เราชอบ มาเขียนเนื้อเพลงต่อได้โดยที่เราอาจจะไม่ต้องเอาตัวเองไป อกหักจริงๆ เนาะ เพราะฉะนั้นก็เหมือนกลับไปสู่สิ่งที่เอิ๊ตพูดตั้งแต่แรกเลย ก็คือ เอิ๊ตจะเป็นคนที่พยายามหาอินพุตต่างๆ เข้าตัวตลอดเวลาเลย จะอยู่นิ่งไม่ได้เลย
           ไม่รู้ว่าดีหรือไม่ดีเหมือนกันนะคะ เป็นคนที่ชอบฟังพอดแคสต์ตลอดเวลา ว่างก็จะอ่านหนังสือ ถ้าสมมุติว่าเข้าห้องน้ำเบื่อๆ ก็จะดูซีรีส์ เหมือนเราพยายามที่จะเก็บเกี่ยวสิ่งต่างๆ ที่เราน่าจะเอามาใช้ได้อยู่เรื่อยๆ ซึ่งหลายครั้งมากๆ เลยที่ฟังพอดแคสต์อยู่แล้วก็แบบ “เฮ้ย คำนี้ดีจังเลย ความรู้สึกแบบนี้ดีจังเลย”เก็บกลับมาใช้ได้ไหมนี่ แล้วก็กดพอส เอามาจด อาจจะทำให้เราดูหนังหรือว่าดูซีรีส์สนุกน้อยลงนะคะแต่ว่าก็ได้อะไรนะ เราว่าถ้าเราอยากเป็นนักเล่าเรื่องเราก็ต้องมีอะไรให้เล่าเนาะ ก็เป็นอะไรที่ดีเหมือนกันแหละ 

ห้ามใจไม่อยู่ (is it you?) - Earth Patravee 
ส่งต่อคำแนะนำจากเอิ๊ต
          คำแนะนำจากประสบการณ์ของตัวเองที่อยากส่งต่อให้กับทุกๆ คนนะคะ เป็นคำแนะนำที่ได้รับการแนะนำมาอีกทีเหมือนกันค่ะ คือ เวลาที่เรารู้สึกไม่ไหวแล้ว เรารู้สึกตัน ไปต่อไม่ได้ ก็ให้พักค่ะ พักไปทำอย่างอื่นนะคะ พักผ่อนบ้าง ทำสมองให้โล่งบ้าง ไปเดินเล่นบ้างหรือว่าใช้เวลากับที่บ้านบ้าง เล่นกับหมากับแมวอะไรก็ได้ ที่ทำให้เรารู้สึกว่า ได้ปล่อยตัวเองให้เฉื่อยๆ ไปตามเวลาบ้าง ไปอาบน้ำ ไปทำอะไรก็ได้ที่รู้สึกว่าโอเค เราพอก่อน แล้วเมื่อไหร่ที่เราพร้อมเราค่อยกลับมาคิดใหม่ เพราะก็มีหลายๆ ครั้งที่คิดจนทุกข์ รู้สึกว่าแบบนี้คือความทุกข์เหรอนี่ คือความสุขหรือเปล่านะ เพราะฉะนั้นพักก่อน แล้วค่อยกลับมาใหม่ ประมาณนี้มั้งคะ ขอบคุณมากนะคะ บ๊ายบายค่า 
 
          ได้รับคำแนะนำจากเอิ๊ต ภัทรวี และฟังเพลงเพื่อพักผ่อน เติมแรงบันดาลใจกันแล้ว ฟังเพลงจากศิลปินรุ่นใหม่ พร้อมคำแนะนำของรุ่นพี่คนต่อไปได้ในรายการ Bedroom Studio ทุกวันเสาร์ เวลา 11.00-14.00 น. ที่ Cat Radio
         ช่องทางอัปเดตผลงานของเอิ๊ต https://www.facebook.com/earthpatravee https://www.facebook.com/MuzikMoveRecords

BEDROOM STUDIO

11:00-14:00

Listen Live

Now Playing