เบอร์ลินวันสุดท้าย

จริง ๆ วันนี้ไม่ควรจะมีเรื่องเล่าเลย เพราะเป็นวันที่เดินทางทั้งวัน ตามตารางคือเช็คเอาท์จากเบอร์ลินแล้วนั่งรถไฟไปปราก แต่บังเอิญสัญญาณไฟไหม้ดังแต่เช้า ปลุกนักท่องเที่ยวทุกคนให้วิ่งทั้งชุดนอนลงมาข้างล่าง แต่พอมองขึ้นไปบนตึกก็ไม่เห็นควันลอยออกมาจากตรงไหนแม้แต่น้อย เลยสงสัยกันว่าคงมีใครแอบสูบบุหรี่ แต่ก็ไม่น่าใช่เพราะที่ผ่านมาก็พอได้กลิ่นอยู่บ้าง แต่ก็ไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้น ผ่านไปครึ่งชั่วโมงตำรวจกับพนักงานดับเพลิงถึงมา แต่ก็ยังหาวิธีปิดเสียงสัญญาณไม่ได้ งงมาก ที่นี่คงไม่ได้เชื่อมสัญญาณไปที่สถานีดับเพลิง พนักงานถึงมาช้า มาถึงก็หาวิธีปิดไม่ได้ ห่วยจริง และที่แย่ที่สุดคือไม่มีสต๊าฟของโฮสเทลอยู่สักคน มีแต่แม่บ้าน ระหว่างนั้นนักท่องเที่ยวก็ใช้ชีวิตปกติ อาบน้ำแปรงฟัน ทานอาหารเช้าท่ามกลางเสียงสัญญาณเตือนไฟไหม้ เหมือนจำลองบรรยากาศสมัยสงครามโลกเวลามีเครื่องบินมาทิ้งระเบิดยังไงไม่รู้ ผ่านไปชั่วโมงครึ่งถึงปิดเสียงได้ สอบถามพนักงานตอนเช็คเอาท์ว่ารู้สาเหตุหรือยัง ได้คำตอบกลับมาว่ามีคนไปกดสัญญาณเตือนเล่น แต่จับตัวไม่ได้ เพราะเป็นมุมอับของกล้องวงจรปิด ซึ่งไ่ม่ค่อยน่าเชื่อ เพราะอย่างน้อยก็ต้องเห็นผู้ต้องสงสัยเดินเข้าไปแถวนั้นบ้างแหละ เพราะเพิ่งหกโมง ไม่ใช่เวลาที่พลุกพล่านอะไรเลย แต่ที่น่าสังเกตคือตอนที่นักท่องเที่ยววิ่งลงไปอยู่ชั้นล่าง ผมไม่เห็นนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นคนนั้นเลย ใครจะมาเบอร์ลินไม่แนะนำโฮสเทลนี้นะ

ตอนแรกนึกว่านี่น่าจะเป็นเรื่องตื่นเต้นเรื่องเดียวที่นำมาเล่าได้แล้วนะ แต่เปล่า ยังมีอีก ซึ่งไม่น่ามีเลย(เป็นอย่างยิ่ง) พอถึงปรากทุกคนก็แยกกันไปเช็คอิน แล้วก็นัดมาเจอกันที่โรงแรมของเพื่อนคนนึง แล้วก็เดินเล่นจาก Charles Bridges มาย่าน Old Town ระหว่างทางคนที่ยังไม่ได้แลกเงินก็หาที่แลกเงินไปด้วย เพราะได้รับคำแนะนำจากเพื่อนที่เคยมาเที่ยวก่อนหน้านี้ว่าอย่าแลกเงินที่สถานีรถไฟ เพราะจะโดนฟันหัวแบะ เราก็เลยแลกแค่พอค่าแท็กซี่(ซึ่งจริง ๆ ผมก็โดนฟันหัวแบะตรงนี้ด้วย) แล้วก็มาหาจุดแลกในเมืองต่อ ระหว่างทางก็มีหลายร้าน แล้วก็เจอร้านที่ให้อัตราดีที่สุด แต่ปิดไปแล้ว ก็เลยเดินออกมา จังหวะนั้นเพื่อนก็ตะโกนเรียกให้กลับไป เพราะมีคนเดินออกมาจากร้าน และรับแลกในอัตราที่ดีกว่าป้ายที่บอกแถมไม่เสียค่าคอมด้วย ช่างโชคดีอะไรเช่นนี้ เลยแลกกันไปคนละร้อยยูโรบ้าง ห้าสิบบ้าง ต่างคนต่างยิ้มแย้มแจ่มใส่ท่ามกลางอากาศและอัตราแลกเปลี่ยนที่ดี ย่าน Old Town เป็นย่านที่บรรยากาศดีมาก เหมือนเดินอยู่ในหนัง James Bond เราเลือกร้านอาหารใน Karlova ทานเป็นมื้อเย็น อาหารดี เบียร์ดี อากาศดีมีความสุข ทุกคนเอนจอย พอทานเสร็จก็เรียกพนักงานมาเก็บเงิน ราคาโอเคเลย ไม่แพงอย่างที่เพื่อนบอกว่าครองชีพที่นี่พอๆกับ Central World ทานกัน 5 คน ตกคนละ 375 CZK เป็นเงินไทยก็ประมาณ 550 บาท คุ้มมากๆ แต่พอพนักงานเห็นเงินที่จ่ายเท่านั้นแหละ หันมาบอกเราด้วยอาการตกใจว่า "นี่ไม่ใช่เงินของประเทศเช็ก" แล้วก็วิ่งเข้าไปในร้านเพื่อตรวจสอบ แล้วก็เดินกลับมาบอกว่านี่เป็นเงินของประเทศเบลารุสซึ่งมีค่าเทียบเท่าชิท เอาแล้วไง โดนเข้าแล้ว ความงกเป็นเหตุบวกกับความโง่ พอหายงงก็ขำ คนเสิร์ฟเค้าท่าทางหงุดหงิดที่มีคนทำเสียชื่อประเทศ หลังจากนั้นก็แยกย้ายกันกลับที่พัก โดยแพลนเที่ยวกันใหม่ ว่าจะไปใช้เงินที่เบลารุสกัน ใครจะมาปรากไม่แนะนำให้แลกเงินตามข้างถนนนะครับ.

เรื่องโดยดีเจวราฤทธิ์ มังคลานนท์

ติดตามความเคลื่อนไหวและฟัง CAT RADIO 24 ชั่วโมง ได้ที่
www.thisiscat.com
APPLICATION CAT RADIO ทั้งทาง ITUNES และ PLAYSTORE
FACEBOOK : https://www.facebook.com/thisiscatradio
INSTAGRAM : ThisisCatRadio
TWITTER : @ThisisCatRadio

เบอร์ลินวันสุดท้าย

Now Playing

แมวนอก